ความงดงามของทิวทัศน์ยอดดอยที่โผล่พ้นกลุ่มหมอกหนาราวกับปุยเมฆ โดยทอดยาวออกไปเหมือนทิวเขาที่ทอดยาวออกไปในทะเล บรรยากาศแสนสวยประกอบกับสายลมหนาวพัดผ่าน เป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ที่ผู้มีโอกาสได้ไปสัมผัสต่างพากันหลงใหลกับบรรยากาศของยอดดอยน้อยใหญ่ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวให้ได้ไปเยี่ยมชมทะเลหมอกอย่างชื่นฉ่ำหัวใจ
หมอกเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิของอากาศลดลงต่ำกว่าจุดน้ำค้าง (Dew point) หรือจุดที่ไอน้ำในอากาศจะควบแน่นเป็นละอองหรือหยดน้ำ ถ้ามีไอน้ำหรือความชื้นในอากาศมากก็จะทำให้เรามองเห็นเป็นสายหมอก
สำหรับทะเลหมอกเราจะพบได้เมื่อมีหมอกเกิดขึ้นในบริเวณหุบเขา และผู้มองอยู่ในจุดที่สูงกว่ากลุ่มหมอก ทำให้เรามองเห็นกลุ่มหมอกอยู่รวมตัวกัน มีลักษณะเหมือนกับทะเลหมอก
ทะเลหมอก จะเกิดในบริเวณที่มีความชื้นสูงมักจะพบในฤดูหนาว หรือช่วงหลังฝนตก เห็นเป็นหมอกในบริเวณหุบเขา แต่ก็ใช่ว่าเราจะเห็นทะเลหมอกได้ตลอดทั้งวัน ยังมีสิ่งที่ทำให้ทะเลหมอกสลายตัวได้แก่ ความร้อนจากแสงแดด และลมพัดพาไป ดังนั้น ช่วงเวลาที่เราจะมีโอกาสเห็นทะเลหมอกได้มากที่สุดคือเวลาในตอนเช้า ซึ่งหลาย ๆ คนคงต้องฝืนใจตื่นแต่เช้า หากต้องการชมความสวยงามของทะเลหมอก
ที่มาข้อมูล:
http://www.scimath.org/article-science/item/4619-2015-01-28-03-01-23
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/67876/-blo-sciear-sci-
https://sites.google.com/site/fogseathalehmxk/
https://travel.kapook.com/view99477.html
ที่มาภาพ:
https://blog.bangkokair.com/เที่ยวแม่ฮ่องสอน-ทะเลหม/
http://remawadee.com/nongkhai/PHES.html
ผู้เขียน: ธีรศักดิ์ หมอนทอง