13 พฤศจิกายน 2563 – นนทบุรี / วันนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ รวม 93 หน่วยงาน 11 ประเทศ จัดงาน“มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2563” รูปแบบใหม่ Virtual Science Fair ตั้งแต่วันนี้ – 23 พฤศจิกายน 2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรมอย่างยั่งยืน” และมียูทูปเบอร์ล้านวิว “บรีแอนน่า” ควงน้องชาย “สกายเลอร์” เป็นพรีเซนเตอร์ตัวแทนเชิญชวนเยาวชน คนรุ่นใหม่มาเปิดประสบการณ์เรียนรู้วิทย์วิถีใหม่ ผ่านนิทรรศการรูปแบบ “Virtual Science Fair” เสมือนจริง 360 องศาได้ 2 ช่องทาง ทั้งเดินทางมาชมที่งาน ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และรับชมในรูปแบบ 3D VIRTUAL EXHIBITION ผ่านออนไลน์ www.thailandnstfair.com
ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการหลักที่มีเนื้อหาอยู่ในกระแสความสนใจของประชาชน และมุ่งเน้นการนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยได้นำมาจัดแสดงในรูปแบบออนไลน์ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเข้าชมงานให้แก่เยาวชนและผู้สนใจทั่วประเทศ อาทิ นิทรรศการเจาะนวัตกรรมเกม เรียนรู้นวัตกรรมในการพัฒนาเกมจนกลายมาเป็นกีฬาออนไลน์ จากจุดเริ่มต้นที่มีแค่คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องและจอยสติ๊ก 2 ตัว ถูกพัฒนามาเป็น E-Sport และสร้างรายได้มหาศาลอย่างทุกวันนี้ได้อย่างไร มาร่วมกันค้นหานวัตกรรมเกมที่จะทำให้คุณมองการเล่นเกมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ตื่นตาตื่นใจไปกับการจำลองชีวิตบนดาวอังคาร! ในนิทรรศการหนึ่งวัน...(บนดาว) อังคาร | A Day on Mars, ที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ได้ความรู้สึกตื่นเต้นไม่ต่างกัน เพราะลูกเล่นที่โดดเด่นจนต้องต่อคิวยาว นั่นคือ เกมสร้างชุด มนุษย์ดาวอังคาร ความน่าสนใจอยู่ตรงที่เราสามารถสนุกไปกับการเลือกเพศ สีและชุดมนุษย์อวกาศ ด้วยท่าทางที่ยืนนิ่ง หรือวิ่งบนดาวอังคารก็ได้ทั้งนั้น นอกจากนี้ยังเลือกมุมกล้องถ่ายหน้าตัวเองขึ้นจอ พร้อมดาวน์โหลดภาพตัวเองเก็บไว้บันทึกความทรงจำได้ผ่าน QR CODE ทั้งหมดนี้ สามารถใช้เวลาของความสนุกได้ไม่ถึงหนึ่งนาที
อีกหนึ่งนิทรรศการที่เด็กได้ความสนุกผสมการตระหนักคุณค่าของสรรพชีวิตกับนิทรรศการขบวนการพิทักษ์พืช พิทักษ์โลก (Plant Ranger) โดยครีเอทแก๊งค์ซูเปอร์ฮีโร่ เพื่อเชิญชวนน้อง ๆ ให้เข้าร่วมขบวนการพิทักษ์พืช กอบกู้โลก เพื่อป้องกันและรักษาเหล่าพืชพรรณในโลกไม่ให้ถูกทำลายไปมากกว่านี้ เพราะถ้าพืชถูกทำลาย นั่นหมายถึง เราทุกคนต่างก็ถูกทำลายด้วย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์, การประกวดแข่งขัน, การประชุมสัมมนาทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ, การจัดแสดงผลงานสินค้า OTOP กว่า 30 รายการที่มีการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อยกระดับ OTOP ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล, นิทรรศการของมูลนิธิหุ่นสายเสมาศิลปะเพื่อสังคม ที่เปิดให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมในการทดลองและลงมือปฏิบัติได้ด้วยตนเองไปกับกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การควบคุมหุ่นเชิดขนาดใหญ่และควบคุมหุ่นยนต์ การสร้างหุ่นจากวัสดุท้องถิ่น ฯลฯ
ภายในงาน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้เข้าชมงานทั้งเด็กเยาวชน ครูอาจารย์ ตลอดจนผู้ปกครองหลากหลายวัย ต่างให้ความสนใจ เข้าร่วมกิจกรรมในงานอย่างล้นหลาม น้องพิมพ์ลภัส ธรรมเมธากุล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านสามยอด จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่าทางโรงเรียนได้พามาทัศนศึกษา โดยปีนี้มาเป็นปีที่ 3 ทำให้เห็นความแตกต่างของแต่ละปี แต่ละบูธมีเรื่องราวเปลี่ยนไป มีการพัฒนาทางด้านของเทคโนโลยีมากขึ้น ส่วนตัวเป็นคนชอบเรื่องวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว เช่น เรื่องดาราศาสตร์ ดวงดาว ยานอวกาศและชีววิทยา หลังจากที่มางานนี้ พบว่าเราได้ความรู้นอกห้องเรียนมากขึ้น ทั้งในแง่ของการเรียนที่ทำให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้น และในแง่การนำไปต่อยอดความรู้ที่บ้าน และคุณแม่ท่านหนึ่ง คุณเกษศิณี อุ่มบางตลาด พาลูกสาวน้องฮานิ วัย 9 ขวบ บอกว่า เป็นช่วงเวลาปิดเทอมพอดี จึงพาลูกสาวมาเที่ยว เนื่องจากน้องฮานิมีความชอบวิทยาศาสตร์และการทดลอง รวมถึงชอบพวกต้นไม้และพืช อย่างพวกชีววิทยาด้วย และที่เลือกเดินทางมางานเพราะเห็นว่าปีนี้เป็นปีที่น่าสนใจ เพราะมีการให้ความรู้เรื่องโควิด-19 เราจึงได้อยากได้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อที่จะได้ตระหนักรู้ถึงวิธีดูแลตัวเอง ป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสนี้ ที่สำคัญคือทำให้น้องฮานิเข้าใจได้ว่า วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามาก
ผศ.ดร. รวินฯ กล่าวถึง เนื่องจากปีนี้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 งานมหกรรมวิทย์ฯ ปีนี้ จึงได้มีการปรับรูปแบบการจัดงานใหม่ เป็น Virtual Science Fair ซึ่งเปิดให้คนเข้าชมงานได้ 2 ช่องทาง ช่องทางแรกคือการเข้าชมงานในสถานที่จริง ระหว่างวันที่ 13-23 พฤศจิกายน 63 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดให้เข้าชมงานฟรี! ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. โดยมีมาตรการจำกัดผู้เข้าชมงาน และมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมเปิดให้ลงทะเบียนจองสิทธิ์เข้าชมงานล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์งาน และช่องทางที่สอง คือเข้าชมนิทรรศการเสมือน 360 องศา พร้อมกิจกรรมออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์งาน www.thailandnstfair.com สามารถรับชมกิจกรรมและนิทรรศการต่าง ๆ ที่จัดขึ้น การเยี่ยมชมงานของพรีเซนเตอร์และเหล่าคนดังที่มาเยี่ยมชมงานที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผ่านการถ่ายทอดสดในมุมมอง 360 องศา ทางเฟสบุ๊กของงาน NSTFair Thailand www.facebook.com/nstfairTH
พร้อมย้ำว่าภายในงาน เราปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งการลดช่องว่าง (Social distancing), การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในงาน, การตรวจวัดอุณหภูมิต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส, ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล ฯลฯ นอกจากนี้ เรายังเตรียมความพร้อมในการรองรับผู้เข้าชมในแต่ละวัน มีการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อความสมบูรณ์พร้อมในทุกด้าน จึงขอเชิญชวนน้อง ๆ เยาวชน พ่อแม่ผู้ปกครอง ครูอาจารย์และผู้ที่สนใจ ร่วมชมงานนี้ ไม่เพียงใช้เวลาร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ ยังสร้างโอกาส สร้างแรงบันดาลใจ สร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีให้เกิดขึ้นแก่เยาวชนและลูกหลานของเรา
