Trigger Finger คือ อาการขณะที่เรางอนิ้วมือแต่ไม่สามารถเหยียดนิ้วกลับให้ตรงได้เหมือนปกติ โดยอาการดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับคนกำลังทำท่าทาง “ใช้นิ้วเหนี่ยวไกปืน” จึงใช้คำเรียก อาการนี้ว่า Trigger Finger ซึ่งในประเทศไทย เรียกอาการดังกล่าวว่า “นิ้วล็อก”
Trigger Finger นิ้วล็อก เกิดจากการอักเสบของเยื่อหุ้มเส้นเอ็น ทำให้เส้นเอ็นหนาตัวขึ้น จนเกิดการติดขัดในขณะเคลื่อนไหวนิ้วมือ โดยอาการแบ่งได้เป็น 4 ระยะ เริ่มจากระยะที่ 1 จะมี
อาการปวดบริเวณโคนนิ้วมือ ระยะที่ 2 จะเริ่มมีอาการสะดุดขณะขยับนิ้วมือ ระยะที่ 3 เมื่องอนิ้วมือ จะแสดงอาการนิ้วล็อกหรือการติดล็อกของนิ้วมือให้เห็นอย่างชัดเจน เช่น เมื่อผู้ป่วยงอนิ้ว
จะไม่สามารถเหยีดนิ้วให้กลับมาตรงได้ตามปกติ อาจต้องอาศัยมืออีกข้างเพื่อช่วยแกะ แล้วดันนิ้วมือให้เหยียดขึ้น หรือเมื่ออาการอักเสบเริ่มรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการนิ้วยึดติดไม่สามารถงอนิ้วมือลงได้
ส่วนระยะที่ 4 ผู้ป่วยจะมีอาการปวดบวมบริเวณนิ้วและไม่สามารถแกะหรือขยับให้นิ้วมือเข้าที่ได้ เพราะเมื่อยิ่งพยายามดัดงอก็จะยิ่งรู้สึกปวดมาก Trigger Finger หรือนิ้วล็อก สามารถรักษาได้โดยเริ่มจากการรับประทานยาไปจนถึงการผ่าตัด
Trigger Finger นิ้วล็อก สามารถเกิดได้กับผู้คนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น พนักงานออฟฟิศ นักเรียน-นักศึกษา พ่อครัว และช่างฝีมือต่างๆ ที่ต้องทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมือหรือนิ้วมือเป็นระยะเวลานานๆ ติดต่อกันในแต่ละวัน รวมถึงกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน , โรคเก๊าท์ , โรครูมาตอยด์ เป็นต้น
Trigger Finger นิ้วล็อก หากผู้ที่อยู่ในระยะอาการเริ่มต้น หรือเพียงอยู่ในกลุ่มเสี่ยง สามารถดูแลตนเองเบื้องต้นได้ โดยการบริหารนิ้วมือและข้อมือของตนอย่างสม่ำเสมอและหากเริ่มรู้สึกมีอาการ ปวดตึงบริเวณนิ้วมือ ควรหมั่นแช่มือในน้ำอุ่นวันละ 15-20 นาที เพื่อบรรเทาอาการให้ดีขึ้นและลดการเป็นโรคนิ้วล็อกในอนาคต
ผู้เขียน : น.ส. จริยา ภู่ระย้า
ที่มาของแหล่งข้อมูล
ข่าว TNN online ( 25 ก.ย. 63)
https://www.tnnthailand.com/content/56159
สสส สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (6 มี.ค. 61) นิ้วล็อกและการดูแลตัวเอง
https://www.thaihealth.or.th/Content/41163-อาการ%20”นิ้วล็อก”%20และการดูแลตนเอง.html
โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ (18 ม.ค. 64) อาการนิ้วล็อก
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/723