จากอดีตถึงปัจจุบันเป็นที่ทราบแน่ชัดว่าไก่ป่าคือ บรรพบุรุษของไก่บ้านหรือไก่เลี้ยง แต่หากมองย้อนไปในยุคไดโนเสาร์ครองโลกก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าใคร คือบรรพบุรุษของไก่และนก นักบรรพชีวิน (Paleontologist) ได้พยายามศึกษาเกี่ยวกับบรรพบุรุษของไก่และนกมากมาย ในขณะเดียวกันรูปลักษณ์ของไดโนเสาร์ได้อ้างอิงตามทฤษฎีและซากดึกดำบรรพ์ (fossil) ที่พบ ทำให้นักบรรพชีวินในอดีตสันนิษฐานว่าไดโนเสาร์ซึ่งครองโลกเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนมีขนาดตัวใหญ่มหึมาและผิวหนังปกคลุมด้วยเกล็ด จากนั้นได้วิวัฒนาการกลายเป็นสัตว์เลื้อยคลานในปัจจุบัน
แต่ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้การวิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์รุดหน้าไปมาก ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้ข้อมูลทางวิชาการเปลี่ยนไป เมื่อรายงานครั้งล่าสุดในปี ค.ศ. 2015 มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์ที่มีความสมบูรณ์ที่สุด บริเวณพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดย Dr. Steve Brusatte และ Junchang Lü ซากดึกดำบรรพ์ที่พบมีขนปกคลุมเหมือนนกขนาด 2 เมตร อายุ 125 ล้านปี ลักษณะคล้ายเวโลซิแรปเตอร์ (Velociraptor) ซึ่งโด่งดังมาจากภาพยนตร์เรื่องจูราสสิค พาร์ค (Jurassic Park) ทีมวิจัยตั้งชื่อให้ว่า “มังกรแห่งเซิ่นหยวน” หรือ “Zhenyuanlong”
ไม่เพียงการศึกษากายวิภาคจากซากดึกดำบรรพ์เท่านั้น ยังมีงานวิจัยโดย Mary Schweitzer มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนอร์ท แคโรไลนา ปี ค.ศ. 2011 ที่ศึกษาตัวอย่างเนื้อเยื่อจากซากดึกดำบรรพ์กระดูกต้นขาของ T-rex (Tyranosaurus rex) อายุ 68 ล้านปี ซึ่งค้นพบตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 พบว่าคอลลาเจน โปรตีน และกรดอะมิโนที่ได้จากซากดึกดำบรรพ์กระดูกต้นขานั้นมีโครงสร้างคล้ายคลึงกับสัตว์ปีก นอกจากนี้ไขกระดูกที่ได้จากซากดึกดำบรรพ์ยังพบว่ามีการสะสมของแคลเซียม คล้ายกับในกระดูกชิ้นยาวของไก่และนกเพศเมียในช่วงที่กำลังวางไข่ แคลเซียมที่สะสมไว้ในชั้นกระดูกนั้นก็เพื่อนำไปสร้างเปลือกไข่ขึ้นมา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยสนับสนุนข้อสันนิษฐานซึ่งเกิดขึ้นหลังจากพบซากดึกดำบรรพ์ของนกโบราณ Archaeopteryx ในปี ค.ศ. 1861 ที่ว่าไดโนเสาร์สองขา (Theropods) ซึ่งกำเนิดในช่วงปลายยุคจูราสสิคและเหลือรอดจากการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ได้วิวัฒนาการไปเป็นสัตว์จำพวกนกและไก่ในยุคปัจจุบัน ซึ่งหากข้อสันนิษฐานดังกล่าวได้รับการยืนยันถูกต้องในอนาคต บางทีคำตอบของคำถามที่ว่า “ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน” อาจจะไม่ใช่ทั้งไก่และไข่ แต่อาจจะเป็นไดโนเสาร์ก็เป็นได้
เรียบเรียงโดย ปวิตา ลิขิตเดชาโรจน์
แหล่งอ้างอิง :
http://www.bbc.com/news/science-environment-33067582
http://www.detectingdesign.com/fossilizeddna.html
http://www.nature.com/articles/srep11775
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3110760/pdf/pone.0020381.pdf