วงการ E-Sport ทั่วโลกต้องสั่นสะเทือนเมื่อ OG สุดยอดทีมแชมป์โลก Dota 2 ต้องพ่ายให้กับ OpenAI Five สุดยอดบอทปัญญาประดิษฐ์ ในศึก OpenAI Five Finals
การแข่งขันครั้งล่าสุดระหว่าง บอท กับ มนุษย์ ระเบิดศึกขึ้นในงาน OpenAI Five Finals ที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลอฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการดวลกันตัวต่อตัวในเกมส์ Dota 2 ระหว่าง OG ดีกรีทีมแชมป์โลกจากงาน The International 2018 (Ti 2018) กับ OpenAI Five สุดยอด บอท ปัญญาประดิษฐ์ จากกลุ่ม OpenAI ซึ่งเป็นทีมงานนักพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ ภายใต้การสนับสนุนจากนักลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา และบริษัท Tesla คอเกมส์ทั้งโลกเฝ้าจับตามองว่าใครจะเป็นผู้ได้รับชัยในศึกนี้กันแน่ หลังจากที่ทีมมนุษย์ได้เคยชนะบอทตัวนี้มาในคราวชิงแชมป์โลกเมื่อปีกลาย
ศึกนี้ระเบิดขึ้นในวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีการจำกัดเงื่อนไขหลายอย่างเพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างมนุษย์ธรรมดากับบอทที่สามารถมองเห็นทุกอย่างในเกมส์ได้มากกว่า เกม Dota 2 เป็นเกมออนไลน์แนว MOBA (Multiplayer Online Battle Arena) ที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่นสูง ต้องใช้การวิเคราะห์ข้อมูล วางแผนกลยุทธ์ และการทำงานอย่างเป็นระบบระหว่างผู้เล่นทั้งหมดในทีม โดยตัวเกมส์จะแบ่งผู้เล่นเป็น 2 ทีม ในหนึ่งทีมสามารถมีผู้เล่นได้สูงสุด 5 ผู้เล่น ซึ่งแต่ละคนจะต้องสวมบทบาทเป็นตัวละคร หรือ “Hero” หนึ่งในห้าของทีม ตัวละคร Hero แต่ละตัวจะมีความสามารถและหน้าที่แตกต่างกันไป เป้าหมายของเกมคือ ทำลายฐานที่ตั้ง ซึ่งเรียกว่า “Ancient” ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของทีมตรงข้าม ระหว่างการเล่น ผู้เล่นจะต้องเก็บระดับประสบการณ์ หาสิ่งของ และเพิ่มความสามารถให้กับ Hero รวมถึงต้องวิเคราะห์ข้อมูลฝั่งตรงข้าม และวางแผนกลยุทธ์ในการเล่น กล่าวได้ว่า เกมส์นี้ ไม่มี Hero ตัวใดเก่งที่สุด แต่การเป็นผู้ชนะในเกมนั้นสามารถเกิดได้จากการประสบการณ์และการประสานงานภายในทีม
ผลการแข่งขันครั้งล่าสุดก็เป็นที่สั่นสะเทือนวงการเกมคอมพิวเตอร์ และ E-Sports เป็นอย่างมาก เมื่อ OpenAI Five สามารถเอาชนะแชมป์โลกอย่าง OG ไปได้สองเกมรวด มีการวิเคราะห์รูปแบบการเล่นของ บอท ตัวนี้ว่ามีความยืดหยุ่นและเข้าใจในตัวเกมส์มากกว่าเวอร์ชั่นก่อนๆ มาก มีการเลือกรักษา Tower เพื่อครองพื้นที่ที่ได้เปรียบของตนเองเอาไว้ รู้จักพลิกแพลงจังหวะการรุกและรับอย่างต่อเนื่องเพื่อการปิดเกมส์ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งอาศัยเทคนิคการเปิดเกมบุกอย่างรวดเร็วและดุดันเพื่อไม่ให้โอกาสทีมแชมป์อย่าง OG ตั้งตัวได้ทัน
เกร็ก บร็อคแมน (Greg Brockman) ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีของ OpenAI ให้สัมภาษณ์ก่อนการแข่งขันว่า “เราไม่ได้สร้างให้ OpenAI Five รู้วิธีการเล่นเกม แต่เราเขียนโค้ดให้ OpenAI Five รู้จักวิธีการเรียนรู้เกมด้วยตัวเอง ในช่วงเวลาสิบเดือนตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงตอนนี้ OpenAI Five ได้หัดเล่นและเรียนรู้เกม Dota 2 ไปเป็นเวลาประมาณ 45,000 ปีในโลกมนุษย์ แต่เท่าที่ผมสังเกต มันก็ยังไม่ได้ดูจะเบื่อการเล่นเกมสักเท่าไหร่นะ”
ประโยชน์หนึ่งของการเล่นเกมส์แบบนี้คือเราอาจนำกลยุทธบางอย่างที่ได้จากประสบการณ์ในเกมส์มาปรับใช้ในชีวิต หรือนักเขียนเกมส์สามารถประยุกต์การเขียนอัลกอริทึมไปใช้ในการแก้ปัญหาทางโปรแกรมด้านอื่นได้ แต่การอยู่หน้าจอมากเกินไปก็อาจสร้างปัญหาให้เราได้เหมือนกัน แม้ว่าผลศึกครั้งนี้จะออกมาที่ฝั่งเกมเมอร์ที่เป็นคนธรรมดาพ่ายแพ้ต่อ บอท ปัญญาประดิษฐ์ แต่มันก็ได้เป็นสิ่งสำคัญที่สนับสนุนว่า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นั้นได้ก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง มนุษย์กลุ่มหนึ่งคือผู้สร้างเทคโนโลยีขึ้นมา ผู้ใช้จึงต้องศึกษาเรียนรู้เพื่อก้าวตามให้ทัน และใช้เทคโนโลยีอย่างรู้เท่าทันด้วยเช่นกัน
ภาพการแข่งขัน Dota 2 ระหว่าง OpenAI Five และทีม OG จากเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ข้อมูลและภาพประกอบ
https://www.theverge.com/2019/4/13/18309459/openai-five-dota-2-finals-ai-bot-competition-og-e-sports-the-international-champion
ผู้เขียนและเรียบเรียง: นายธานี หลินลาโพธิ์ วิทยากร4 กองวิชาการ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ