ปัจจุบัน เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยนะครับว่า ชานมไข่มุกในช่วงนี้มาแรงมาก ๆ ซึ่งเข้ากับอากาศร้อนๆของเมืองไทย กับการคลายร้อนด้วยเครื่องดื่มเย็นๆหวานๆทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีและที่สำคัญหาซื้อได้ไม่ยากซึ่งจุดเด่นในชานมไข่มุกคือเจ้าเม็ดกลมๆที่อยู่ในชานมหรือที่เรียกว่าไข่มุกซึ่งมีเนื้อสัมผัสนุ่ม ๆ จึงทำให้เครื่องดื่มนี้กลายเป็นขนมได้อีกด้วย ลักษณะพิเศษนี้ทำให้ชานมไข่มุกโดดเด่นกว่าเครื่องดื่มอื่น ๆ ซึ่งต้นกำเนิดของเม็ดไข่มุกเหล่านี้มาจากไต้หวันนั่นเอง
ไข่มุก (Bubble) ทำมาจากแป้งมันสำปะหลังผ่านเครื่องปั้นเป็นเม็ดกลม ๆ แล้วนำมาต้มกับน้ำตาลซึ่งให้ปริมาณพลังงานต่างกันออกไปแล้วแต่สูตรของแต่ละร้านในเม็ดไข่มุกจะประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนใหญ่ จากข้อมูลสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า “ชานมไข่มุกหนึ่งแก้วให้พลังงานอยู่ที่ประมาณ 200-400 กิโลแคลอรี่ปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 8-11 ช้อนชาต่อ1แก้วโดยทั่วไปแล้วไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาต่อวันสำหรับผู้หญิงและ9ช้อนชาต่อวันสำหรับผู้ชาย
นอกจากนี้ยังมีไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) ในนมอีกด้วย”ถ้ารับประทานไขมันอิ่มตัวในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้ระดับโคเลสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้นและอาจมีไขมันไม่ดี (Low Density Lipoprotein หรือ LDL) ไปเกาะตามผนังหลอดเลือดแดงจนเกิดการอุดตันซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจนอกจากนี้ยังมีโรคหลอดเลือดสมองและโรคอ้วนอีกด้วย
การเลือกดื่มชาที่ไม่มีน้ำตาลอาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าเพราะในใบชาส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแต่อย่างไรก็ตามสาวกชานมไข่มุกอย่าง เราก็คงจะงดดื่มชาไข่มุกเลยไม่ได้ใช่ไหมครับ แต่ก็ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะทานอาหารที่หลากหลายและออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดีกันด้วยนะครับ
ผู้เขียน: นายญาณพัฒนุ์ บุญถนอม
ที่มาของแหล่งข้อมูล