ภัยล่องหนจากไมโครพลาสติก

ภัยล่องหนจากไมโครพลาสติก

16-12-2021
ภัยล่องหนจากไมโครพลาสติก

        เป็นที่เข้าใจกันอยู่แล้วว่าขยะพลาสติกมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตคิดว่าพลาสติกเป็นอาหารและกินเข้าไป ทำให้ไม่สามารถย่อยได้และเกิดการอุดตันของทางเดินอาหาร หรือพลาสติกบางรูปทรงอาจไปเกี่ยวอวัยวะหรือตัวของสัตว์ ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ซึ่งเสี่ยงต่อชีวิตของสัตว์ทั้งบนบกและในน้ำ แต่ยังมีภัยอีกรูปแบบหนึ่งจากพลาสติก ที่เรียกว่าไมโครพลาสติก

        ไมโครพลาสติกคือ ชิ้นส่วนพลาสติกที่มีขนาด 1 นาโนเมตร ถึง 5 มิลลิเมตร ไมโครพลาสติกมีที่มาจากหลายแหล่งอาทิเช่นไมโครพลาสติกบนบกซึ่งส่วนมากมาจากการเสียดสีของยางรถยนต์กับถนน หรือสีที่ใช้ทาอาคารหรือยานพาหนะ แม้กระทั้งผ้าที่ทำจากใยสังเคราะห์ นอกจากนี้ยังมีการผลิต ไมโครบีดส์ ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกจิ๋วที่เป็นส่วนผสมในสบู่ล้างหน้า เจลขัดผิวไมโครพลาสติกเหล่านี้ล้วนสามารถลอดผ่านจากกระบวนการบำบัดน้ำเสียลงสู่ทะเลได้ อีกทั้งขยะพลาสติกที่มีขนาดใหญ่ที่ล่องลอยอยู่ในทะเลเมื่อถูกรังสียูวีจากดวงอาทิตย์ จะสลายโครงสร้างเป็นชิ้นเล็กลงได้ กลายเป็นไมโครพลาสติก โดยเฉพาะในมหาสมุทรน้ำอุ่นพลาสติกขนาดใหญ่จะย่อยสลายกลายเป็นไมโครพลาสติก

        ไมโครพลาสติก สามารถดูดซึมสารพิษที่มีอยู่ในทะเล ดังนั้นยิ่งอยู่ในน้ำทะเลนาน ไมโครพลาสติกจะมีความเป็นพิษเพิ่มสูงขึ้น สิ่งมีชีวิตตั้งแต่ต้นห่วงโซ่อาหารอย่างเช่นแพลงตอนสัตว์ในทะเลจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับพลาสติกล่องหนเหล่านี้เข้าไป ส่วนสิ่งมีชีวิตท้ายห่วงโซ่อาหารอย่างเช่นมนุษย์อาจได้รับสารพิษตกค้าง เพราะไมโครพลาสติกที่มีขนาดเล็กสามารถผ่านผนังเซลล์ มีนักวิจัยนำเสนอความเป็นไปได้ว่าอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กเหล่านี้อาจโดนลมพัดและล่องลอยอยู่ในอากาศเข้าสู่ปอดของสิ่งมีชีวิตได้ เป็นเหมือนมลภาวะทางอากาศเช่นเดียวกับไอเสียจากรถยนต์

        นอกจากนี้กระบวนการผลิตพลาสติกบางส่วนมีการใส่สารเคมีเพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้กับพลาสติก เช่น Bisphenol A (BPA) ซึ่งส่งผลกับการเจริญเติบโตของเด็ก และพบ Poly Bromodifenyl Ether (PBDE) ในเนื้อเยื่อของนกที่อาศัยแถวทะเล ซึ่งเป็นสารมีพิษที่ใส่ในพลาสติกเพื่อกันการติดไฟ

        ไมโครพลาสติกจึงเป็นผลมาจากที่เกิดจากการใช้พลาสติก ซึ่งได้แฝงตัวอยู่รอบตัวเราโดยที่เราคาดไม่ถึง และเป็นภัยอันตรายกับสิ่งมีชีวิตบนโลก รวมทั้งมนุษย์ซึ่งถือว่าอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารดังนั้นเราควรตระหนักถึงการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น ปัจจุบันเริ่มมีบางบริษัทที่มีการนำพลาสติกมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่  หรือนำวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติมาใช้แทนพลาสติก แต่นวัตกรรมเหล่านี้ล้วนยังมีราคาสูง หากทุกคนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการกระทำที่ช่วยในการลดการใช้ (Reduce) นำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) หรือ แปรรูป 
(Recycle) พลาสติก อาจมีทางช่วยบรรเทาหรือแม้กระทั้งลดปัญหาได้ในอนาคต

แหล่งอ้างอิง:
http://science.howstuffworks.com/science-vs-myth/everyday-myths/how-long-does-it-take-for-plastics-to-biodegrade.htm
http://www.plasticsoupfoundation.org
http://www.ecowatch.com/scientists-warn-that-you-could-be-inhaling-chemically-laden-microplast-1891129394.html
http://grist.org/living/2011-12-07-how-microplastics-cause-macro-problems-for-the-ocean/

เรียบเรียงโดย: นางสาวนุชจริม เย็นทรวง

ข่าวสารที่่คล้ายกัน