คุณทราบไหมว่า แปรงสีฟัน เป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรคอย่างดี

คุณทราบไหมว่า แปรงสีฟัน เป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรคอย่างดี

17-12-2021
คุณทราบไหมว่า แปรงสีฟัน เป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรคอย่างดี

ภาพจาก : http://www.rukfun.com/wp-content/uploads/2012/10/dental-brush.jpg

   เจมส์ ซอง นักเคมีจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐฯ ได้เขียนหนังสือ ชื่อว่า “เหตุใดแปรงสีฟันอาจฆ่าคุณได้” ซึ่งเขาได้กล่าวว่า แปรงสีฟันที่ใช้งานนานเกินไป ถือเป็นหนึ่งในวัตถุอันตรายในครัวเรือน และเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไขข้อ และการติดเชื้อเรื้อรัง

toothbrush

ภาพจาก : http://www.callvoice.co.th/employee/images/stories/toothbrushes.bmp

   จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ในอังกฤษ พบว่า แปรงสีฟันทั่ว ๆ ไป เป็นแหล่งอาศัยของเชื้อโรคประมาณ 10 ล้านตัว ซึ่งรวมถึงแบคทีเรียชนิดอันตรายอย่าง staphylococci, streptococcus, E. coli และ candida นอกจากนี้ ดร. ทาเร็ก ไอดริส 
ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมตกแต่ง จากฮาร์เลย์ สตรีท ยังเสริมอีกว่า มีการตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ, บี และซี ในแปรงสีฟัน และสปอร์ของไวรัสตับอักเสบบีสามารถอยู่รอดได้นานหลายเดือน โดยแบคทีเรียเหล่านี้เดินทางเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ใช้โดยตรงผ่านรอยแผลเล็กๆที่เหงือก แบคทีเรียเหล่านี้บางส่วนเกี่ยวข้องกับการอุดตันของเส้นเลือด โดยมีผลการวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ แสดงให้เห็นว่า เชื้อแบคทีเรีย porphy-romonas gingivalis ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปริทันต์หรือโรคเหงือกอักเสบ ปรากฏอยู่ในเส้นเลือดที่อุดตันรุนแรง และศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐฯ ก็ยังพบว่าแบคทีเรียในช่องปากของอาสาสมัครที่เป็นโรคหัวใจ ถูกตรวจพบอยู่ในหลอดเลือดหัวใจเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังพบว่าการสะสมของแบคทีเรียร้ายในระบบเลือด อาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่เกี่ยวข้องกับการคลอดก่อนกำหนด และการที่ทารกมีน้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำอีกด้วย

อย่างทราบกันดีอยู่ว่า มีหลายโรคที่แพร่กระจายทางน้ำลาย และเลือด เช่น ไวรัสตับอักเสบ HIV สมาคมทันตแพทย์ แห่งสหรัฐอเมริกา จึงแนะนำวิธีการที่จะลดเชื้อแบคทีเรียไม่ให้สะสมที่แปรงสีฟัน ดังนี้
- อย่าใช้แปรงสีฟันร่วมกัน เพราะการใช้แปรงร่วมกัน โอกาสสัมผัสกับน้ำลาย เลือด ของอีกคนได้ง่ายมาก เสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยตรง
- อย่าเก็บแปรงในกล่องปิด เพราะแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ดีในที่อับชื้น จึงควรวางให้แห้งด้วยอากาศจะดีกว่า
- ล้างขนแปรงด้วยน้ำก๊อก หลังจากแปรงฟันเสร็จ เพื่อเอายาสีฟันที่ค้างและสิ่งสกปรกออก แล้ววางให้ตั้งตรง ให้ขนแปรงถูกอากาศพัดให้แห้ง หากมีแปรงหลายอัน ก็อย่าให้ขนแปรงมาชนกันหรือสัมผัสกันเพื่อป้องกันการปนเปื้อน
- ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3-4 เดือน อย่าใช้แปรงจนขนแปรงบาน เพราะประสิทธิภาพในการขจัดเอาเศษอาหารจะลดลง แถมยังอาจทำร้ายเหงือกมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ควรงดใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็ง เนื่องจากจะทำให้เหงือกเป็นแผล และกลายเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือด

แหล่งที่มาข้อมูล :
www.thaihealth.or.th
www.siamzip.com
Tag: แปรงสีฟัน, เชื้อโรค, ช่องปาก, แบคทีเรีย, ไวรัส 
เรียบเรียงโดย : น.ส.วชิรพร ดิษฐสมบูรณ์

ข่าวสารที่่คล้ายกัน