จูบปุ๊บรับปั๊บ

ชายวัย 15 ปี ติดเชื้อไวรัสจากการจูบ

การจูบเป็นการแสดงความรักของคน 2 คน โดยในปัจจุบันการจูบกลายเป็นวัฒนธรรมของการแสดงความรักของคนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความรักระหว่างพ่อแม่กับลูก เช่น การจูบแก้ม จูบหน้าผาก หรือการแสดงความรักของหนุ่ม สาว คือการจูบปาก ซึ่งการจูบปากนั้นสามารถจะนำมาซึ่งการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้มากมาย เพราะมักจะมีการสัมผัสสารคัดหลั่งในช่องปาก ทั้งน้ำลาย เสมหะหรือการ ไอ จามของอีกฝ่าย

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเตือนว่า มีชายวัยรุ่น อายุ 15 ปี ป่วยเป็นโรคโมโนนิวคลิโอซิส หรือโรคติดต่อจากการจูบ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคนี้จะมีอาการเป็นไข้ ปวดหัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ เบื่ออาหาร เหงื่อออกตอนกลางคืนทอนซิลอักเสบ ม้ามโต และเมื่อตรวจเลือดเพื่อดูปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาว พบว่าสูงเกินค่ามาตรฐานซึ่งบ่งชี้ว่าเกิดการติดเชื้อ

โรคโมโนนิวคลิโอซิส เป็นโรคซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ (Epstein-Barr Virus:EBV) ที่สามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำลาย การไอ หรือการจามเมื่อผู้ป่วยติดโรคแล้ว จะค่อยๆ ดีขึ้นและหายได้เองภายใน 2 – 3 สัปดาห์ โรคนี้เกิดขึ้นได้กับทุกช่วงอายุ แต่ส่วนมากจะพบในวัยเด็กไปจนถึงวัยรุ่น และโรคนี้ถ้ามีการติดเชื้อแล้วเชื้อจะอยู่ในร่างกายไปตลอด ถ้าร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำ ก็จะทำให้กลับมาเป็นได้อีก

โรคที่ติดต่อผ่านการจูบ ยังมีอีกหลายโรคเลยทีเดียว ทางที่ดีเราควรหลีกเลี่ยงการจูบที่ต้องสัมผัสน้ำลายกัน ในช่วงที่รู้สึกว่าป่วย หรือเป็นหวัด และเพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อ เราควรหลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะร่วมกับผู้อื่น ล้างทำความสะอาดมือบ่อย ๆ ส่วนผู้ที่ติดเชื้อก็ควรใส่หน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคด้วยอีกทางหนึ่ง

 

ผู้เขียน นางทัศนา นาคสมบูรณ์
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารวิทยาศาสตร์ อพวช.

ที่มาของแหล่งข่าว

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_3442305

ที่มาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม 
https://med.mahidol.ac.th/ramachannel/home/article/โรคโมโนนิวคลิโอสิส-ที/
https://www.pobpad.com/ไวรัสเอ็บสไตบาร์
http://www.tsh.or.th/knowledge_detail.php?id=34