ส่วนที่ 2 ชีวิตของเรา (OUR LIFE)
นำเสนอเรื่องราวของระบบนิเวศ สภาพแวดล้อมและการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตรวมถึงมนุษย์ ภายในชีวนิเวศ (Biome) ต่าง ๆ ได้แก่ ขั้วโลกใต้ (Antarctica), ขั้วโลกเหนือ (Arctic), ทุนดรา (Tundra), ไทกา (Taiga), ทะเลทราย (Desert), เขตอบอุ่น (Temperate) และเขตร้อน (Tropical) ตลอดจนอิทธิพลของมนุษย์ต่อสภาพแวดล้อมนั้น ๆ ซึ่งบางกิจกรรมก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบต่อระบบนิเวศ นอกจากนี้ยังแสดงถึงความสำคัญของทรัพยากรดินและน้ำ ที่เป็นต้นทุนทางธรรมชาติที่สำคัญ รวมทั้งเขตภูมินิเวศของประเทศไทย (Thailand Ecoregion) อีกด้วย
- ขั้วโลกใต้ (ANTARCTICA)
เป็นชีวนิเวศบริเวณขั้วโลกใต้ที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่อย่างถาวร ยกเว้นนักวิทยาศาสตร์ที่เข้าไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโลกและสิ่งมีชีวิต เนื่องจากมีความหนาวเย็นมาก อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ระหว่าง -49 ถึง -89 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตบางชนิดทั้งพืชและสัตว์ที่สามารถปรับตัวและดำรงชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางสภาพอากาศอันรุนแรงนี้ แมขั้วโลกใต้จะไม่มีมนุษย์อาศัยถาวร แต่ผลกระทบจากพฤติกรรมของมนุษย์จากชีวนิเวศอื่นก็สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นได้โดยเฉพาะปัญหารอยรั่วของชั้นโอโซนที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น
- ขั้วโลกเหนือ (ARCTIC)
เป็นชีวนิเวศที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้ เช่น วาฬ หมีขาว วอลรัส แมวน้ำ รวมทั้งมนุษย์ เช่น ชาวอินูอิท (Inuit) ที่สามารถสร้างที่อยู่อาศัยชั่วคราวจากก้อนน้ำแข็ง เรียกว่า อิกลู (Igloo) ปัจจุบันขั้วโลกเหนือเป็นพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำแข็งละลาย
- ทุนดรา (TUNDRA)
เป็นชีวนิเวศที่มีความหนาวเย็น มีช่วงอากาศอบอุ่นสั้นมาก ประมาณ 50-60 วัน พืชส่วนใหญ่จึงเป็นพืชขนาดเล็ก เช่น หญ้า มอส ดอกไม้ต่าง ๆ มีมนุษย์อาศัยอยู่หลายเผ่าพันธุ์ เช่น ชาวเนเนตส์ (Nenets) ซึ่งดำรงชีพโดยการเลี้ยงเรนเดียร์ ความโดดเด่นที่ไม่เหมือนชีวนิเวศเขตอื่นคือการเกิดขึ้นของฝูงยุงนับล้านตัวในช่วงฤดูร้อน
- ไทกา (TAIGA)
เป็นชีวนิเวศบนบกที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีแนวป่าสนขนาดใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศแบบสุดโต่งคือมีฤดูหนาวยาวนานและมีฤดูร้อนช่วงสั้นๆ เป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาสภาพแวดล้อม เช่น ไฟป่า การบุกรุกของแมลง
- ทะเลทราย (DESERT)
มีสภาพภูมิอากาศแบบสุดโต่งในอีกลักษณะหนึ่ง คือเต็มไปด้วยความแห้งแล้ง มีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่า 250 มิลลิเมตรต่อปี สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ จึงต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เช่น สัตว์อาศัยในหลุมหรือรู การเปลี่ยนใบให้เป็นหนามเพื่อลดการคายน้ำของต้นกระบองเพชร
- เขตอบอุ่น (TEMPERATE)
ความโดดเด่นของชีวนิเวศเขตนี้ คือการมี 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว การปรับตัวของสิ่งมีชีวิตจึงเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ส่วนจัดแสดงนี้นำเสนอผ่าน 5 พื้นที่ ได้แก่ ยุโรปกลาง (Central Europe), อเมริกาเหนือ (North America), อเมริกาใต้ (South America), ออสเตรเลีย (Australia) และเอเชียตะวันออก (East Asia)
- เขตร้อน (TROPICAL)
เป็นชีวนิเวศที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นในทุกลำดับความสูงของป่า แสงแดดและน้ำฝนมีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และมีความแตกต่างกัน นำเสนอผ่าน 5 พื้นที่สำคัญ ได้แก่ นีโอทรอปิก (Neotropic), แอฟริกา (Africa), มาดากัสการ์ (Madagascar), ปาปัวนิวกินี (Papua New Guinea) และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia)
- ดิน (THAILAND ECOSYSTEM SERVICE : SOIL)
ดิน เป็นต้นทุนทางธรรมชาติที่สำคัญ นิทรรศการนี้จึงเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับดิน เช่น คุณสมบัติของดินที่เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ต่าง ๆ การบริหารจัดการดินเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และสมดุลระหว่างมนุษย์กับทรัพยากรธรรมชาติ
- น้ำ (THAILAND ECOSYSTEM SERVICE : WATER)
น้ำ คือต้นทุนทางธรรมชาติที่สำคัญต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต นำเสนอตั้งแต่วัฏจักรของน้ำ การใช้ประโยชน์จากน้ำ แนวคิด และวิธีบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย รวมทั้งปัญหาและวิธีการแก้ไข
- ภูมินิเวศของไทย (THAILAND ECOREGION)
ส่วนจัดแสดงนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนจัดแสดงสำหรับการอธิบายแนวคิด และความหมายของคำว่าเขตภูมินิเวศ (Ecoregion) ซึ่งเป็นการแบ่งพื้นที่ตามความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตตามชีวภูมิศาสตร์ (Biogeography) พื้นที่อีกส่วนหนึ่งเป็นการจำลองป่าที่มีความแตกต่างกัน 4 แห่ง ได้แก่ ป่าพรุ, ป่าดิบชื้น, ป่าเต็งรัง และป่าดิบเขาสำหรับพื้นที่ด้านนอกอาคาร ทำการจำลองพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งเป็นระบบนิเวศดั้งเดิมของทุ่งรังสิต