ข่าวสารเรื่องการประมูลใบอนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ระหว่างบริษทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หลายราย กับสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. ที่เกิดขึ้นเป็นระยะ และมีตัวเลขราคาใบอนุญาตที่ถูกประมูลไปได้ในหลักหลายร้อยล้านบาทไปจนถึงหลายหมื่นล้านบาท อาจทำให้หลายคนสงสัยว่าคลื่นความถี่ ที่ถูกประมูลไปได้นั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร และแต่ละคลื่นมีความแตกต่างกันในลักษณะใดบ้าง บทความนี้จะทำหน้าที่อธิบายภาพกว้าง ๆ ของการใช้งานคลื่นความถี่ในกิจการโทรคมนาคม และสถานะปัจจุบันของการจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อให้บริการ 4G และ 5G ในประเทศไทย
คลื่นความถี่วิทยุหรือคลื่นความถี่ที่ถูกใช้เพื่อการโทรคมนาคมหรือการสื่อสาร ถือเป็นคลื่นตามธรรมชาติที่มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีความถี่อยู่ระหว่าง 30 Hz ถึง 300 GHz โดยมีการใช้งานและชื่อเรียกในแต่ละช่วงความถี่หรือแถบความถี่ (Band) แตกต่างกันไปตามคำนิยามของผู้ควบคุมการอนุญาตใช้งาน ตัวอย่างเช่นคำนิยามของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ดังตารางด้านล่าง
ชื่อแถบความถี่ |
ชื่อย่อ |
ช่วงความยาวคลื่น |
ช่วงความถี่ |
การใช้งานทั่วไป |
Extremely low frequency |
ELF |
100,000–10,000 km |
3–30 Hz |
การสื่อสารของเรือดำน้ำ |
Super low frequency |
SLF |
10,000–1,000 km |
30–300 Hz |
การสื่อสารของเรือดำน้ำ |
Ultra low frequency |
ULF |
1,000–100 km |
300–3,000 Hz |
การสื่อสารของเรือดำน้ำ / การสื่อสารในเหมือง |
Very low frequency |
VLF |
100–10 km |
3–30 kHz |
ระบบนำทาง |
Low frequency |
LF |
10–1 km |
30–300 kHz |
วิทยุสมัครเล่น |
Medium frequency |
MF |
1,000–100 m |
300–3,000 kHz |
วิทยุกระจายเสียงระบบ AM |
High frequency |
HF |
100–10 m |
3–30 MHz |
วิทยุคลื่นสั้น |
Very high frequency |
VHF |
10–1 m |
30–300 MHz |
วิทยุกระจายเสียงระบบ FM / การแพร่ภาพโทรทัศน์ |
Ultra high frequency |
UHF |
1–0.1 m |
300–3,000 MHz |
การแพร่ภาพโทรทัศน์/ ระบบโทรศัพท์ไร้สาย |
Super high frequency |
SHF |
100–10 mm |
3–30 GHz |
การสื่อสารผ่านดาวเทียม / ระบบอินเทอร์เน็ตไร้สาย |
Extremely high frequency |
EHF |
10–1 mm |
30–300 GHz |
ดาราศาสตร์วิทยุเพื่อการสังเกตการทางวิทยาศาสตร์ |
Terahertz หรือ Tremendously high frequency |
THz หรือ THF |
1–0.1 mm |
300–3,000 GHz |
การทดลองทางวิทยาศาสตร์ / การทดลองถ่ายภาพทางการแพทย์ |
การจัดการคลื่นความถี่ข้างต้นเป็นเพียงคำแนะนำที่เกิดจากการหารือกันระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมของแต่ละประเทศ เพื่อสร้างข้อตกลงการใช้งานที่เป็นมาตรฐานเดียวกันในระดับนานาชาติ โดยแต่ละประเทศยังคงมีสิทธิ์ในออกข้อกำหนดในรายละเอียดการใช้งานคลื่นความถี่ภายในประเทศตามนโยบายของตนเอง รวมถึงการออกใบอนุญาตให้ใช้งานต่าง ๆ ในเชิงพานิชย์
หากพิจารณาช่วงคลื่นความถี่ในตารางแล้วจะพบว่าการสื่อสารด้วยโทรศัพท์แบบไร้สาย รวมถึงการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายมักจะได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในช่วง UHF หรือ SHF ซึ่งไม่ได้เพียงแค่เกิดจากการตกลงกันระหว่างหน่วยงานนานาชาติเท่านั้น แต่ยังถูกเลือกจากความเหมาะสมทางเศรษฐศาสตร์ในการสร้างจุดกระจายสัญญาณ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการมากที่สุด
ตัวอย่าง รัศมีการกระจายสัญญาณในช่วงคลื่นความถี่ต่าง ๆ
โดยทั่วไปแล้วในระยะเวลาที่เท่ากันคลื่นวิทยุสำหรับการโทรคมนาคมในช่วงที่มีความถี่สูงสามารถส่งข้อมูลไปสู่ปลายทางได้ในปริมาณที่มากกว่าคลื่นวิทยุที่มีความถี่ต่ำ แต่ด้วยคุณสมบัติตามธรรมชาติของคลื่นที่มีความถี่สูง ทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานให้กับบรรยากาศรอบข้างได้ง่ายกว่าคลื่นที่มีความถี่ต่ำ ส่งผลให้ระยะทางที่คลื่นวิทยุสามารถนำพาข้อมูลไปได้นั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น การใช้คลื่นวิทยุที่มีความถี่ช่วง 700 MHz จะสามารถส่งสัญญาณ (รวมถึงการส่งข้อมูล ในกรณีของสัญญาณอินเทอร์เน็ต) ได้ในระยะไกลกว่าคลื่นวิทยุความถี่ช่วง 1.9 GHz จากจุดเดียวกัน แต่คลื่นความถี่ 1.9 GHz นั้นจะสามารถส่งข้อมูลได้ในปริมาณ (ความเร็วของการรับ/ส่งสัญญาณ) มากกว่าคลื่นความถี่ 700 MHz รวมถึงส่งสัญญาณผ่านสิ่งกีดขวาง ได้ดีกว่าคลื่นความถี่ 700 MHz ในระยะทางจำกัดการเลือกคลื่นความถี่ช่วง UHF และ SHF มาใช้เป็นช่วงคลื่นหลักสำหรับการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตของโทรศัพท์ไร้สายจึงถือเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างการเลือกให้ความสำคัญกับระยะทางเฉลี่ยระหว่างจุดกระจายสัญญาณโทรศัพท์ (Cellular Tower หรือ Cell Site) ไปสู่อุปกรณ์โทรศัพท์ไร้สายแต่ละชิ้น และการให้ความสำคัญกับความเร็วของการส่งข้อมูลที่เหมาะสมกับการใช้งาน
แถบความกว้างคลื่นความถี่
ตัวเลขระบุคลื่นความถี่ในการจัดสรรคลื่นความถี่ เช่น 700 MHz หรือ 2300 MHz นั้นเป็นเพียงตัวเลขกลางที่ใช้เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างแต่ละฝ่ายเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วการจัดสรรคลื่นความถี่จะให้ความสนใจแถบความกว้างของคลื่นความถี่ (Bandwidth) เป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น ใบอนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ 700 MHz จำนวนหนึ่งใบนั้นอาจให้อำนาจผู้ให้บริการเครือข่ายในการใช้งานคลื่นความถี่ โดยอนุญาตให้ใช้แถบความถี่กว้าง 5 MHz ซึ่งกำหนดให้ใช้คลื่นความถี่ได้ตั้งแต่ 700 MHz ถึง 705 MHz เป็นต้น
ตัวอย่าง การจัดสรรช่วงคลื่นความถี่ของประเทศสหรัฐอเมริกา แสดงให้แห็นแถบความกว้างคลื่นความถี่ที่ได้รับการจัดสรรอย่างชัดเจน
คลื่นความถี่ที่มีการจัดสรรใช้งานในกิจการโทรคมนาคมในปัจจุบัน
ก่อนหน้าการประมูลคลื่นความถี่ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2020 กสทช. ได้จัดสรรคลื่นความถี่ให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายรายต่าง ๆ เพื่อให้บริการโทรศัพท์และการส่งข้อมูลในรูปแบบ 4G ให้ผู้ใช้บริการในช่วงคลื่น 850 MHz 900 MHz 1800 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz โดยในแต่ละช่วงคลื่นจะมีแถบความกว้างคลื่นสำหรับการให้บริการดังนี้
- 850 MHz มีแถบความกว้างคลื่นรวม 30 MHz จากใบอนุญาตจำนวน 2 ใบ
- 900 MHz มีแถบความกว้างคลื่นรวม 40 MHz จากใบอนุญาตจำนวน 4 ใบ
- 1800 MHz มีแถบความกว้างคลื่นรวม 80 MHz จากใบอนุญาตจำนวน 6 ใบ
- 2100 MHz มีแถบความกว้างคลื่นรวม 120 MHz จากใบอนุญาตจำนวน 8 ใบ
- 2300 MHz มีแถบความกว้างคลื่นรวม 60 MHz จากใบอนุญาตจำนวน 1 ใบ
การประมูลคลื่นความถี่ที่จัดสรรเพิ่มเติมในปี 2020
- 700 MHz จำนวน 3 ใบอนุญาต โดยใบอนุญาตแต่ละใบสามารถใช้แถบความกว้างคลื่นได้ 5 MHz
- 2600 MHz จำนวน 19 ใบอนุญาต โดยใบอนุญาตแต่ละใบสามารถใช้แถบความกว้างคลื่นได้ 10 MHz
- 26 GHz หรือ 26000 MHz จำนวน 26 ใบอนุญาต โดยใบอนุญาตแต่ละใบสามารถใช้แถบความกว้างคลื่นได้ 100 MHz
ช่วงคลื่นความถี่หรือย่านความถี่ที่แตกต่างกันนั้นมีคุณสมบัติและข้อจำกัดในการใช้งานที่แตกต่างกัน รวมถึงสามารถรองรับประเภท ยี่ห้อ และรุ่นของอุปกรณ์ไร้สายได้แตกต่างกัน จึงเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการเครือข่ายที่สามารถประมูลใบอนุญาตใช้งานคลื่นความถี่แต่ละประเภทได้ ไปดำเนินการพัฒนาหรือปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงรูปแบบการให้บริการที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานซึ่งถือเป็นลูกค้าทางธุรกิจโดยตรงต่อไป
ที่มารูปภาพ
[1]https://www.justice.gov/atr/700-mhz-spectrum-auction-opportunity-protect-competition-consolidating-industry
[2]https://en.wikipedia.org/wiki/File:United_States_Frequency_Allocations_Chart_2016_-_The_Radio_Spectrum.pdf
ข้อมูลอ้างอิง
[1]Finley, K. (2019, December 18). The WIRED Guide to 5G. Retrieved from https://www.wired.com/story/wired-guide-5g/
[2]ITU Frequency Allocation Table Training, Chart 5, (n.d.) Retrieved from https://www.itu.int/ITU-D/tech/OLD_TND_WEBSITE/spectrum-management_OLD/SMS4DC_AFR/Training%20Materials/SMS4DC_AFR_TM_4.PDF
[3]What is bandwidth? - Communications. (n.d.). Retrieved from http://www.qrg.northwestern.edu/projects/vss/docs/Communications/2-what-is-bandwidth.html
[4]ตีแผ่ 5 คลื่นความถี่ในไทย มาดูกันว่าคลื่นไหนเจ๋งสุด ? มีข้อดีข้อเสียอย่างไร. (2018, September 13). Retrieved from https://www.macthai.com/2018/09/14/thailand-mobile-operator-spectrum-truemove-h/
[5]ประมูล 5G ครบ 3 ย่านความถี่ รายได้เข้ารัฐแสนล้าน. (2020, February 16). Retrieved from https://www.mcot.net/viewtna/5e490b2ee3f8e40af5420412
[6]รู้จักคลื่น 5G และ 4G แตกต่างและดีกว่ากันอย่างไร? : อินโฟเควสท์. (2020, February 18). Retrieved from https://www.infoquest.co.th/2020/4940
ผู้เขียน นายวชิรพันธ์ เจริญเวช นักวิชาการ5 กองวิชาการ
พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ