ชีวิตความเป็นอยู่ในยุคปัจจุบันนี้ การใช้พลังงานของมนุษย์มีแนวโน้มที่จะใช้กันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าที่เราทุกคนก็ต้องพึ่งพาแสงสว่างในการดำรงชีวิต หรือดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการพัฒนาประเทศจึงจำเป็นต้องมีการขยายและต้องหาแหล่งพลังงานเพิ่ม ซึ่งนำมาสู่ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นมากจนหลีกเหลี่ยงไม่ได้เหมือนกันวันนี้จึงมีคำแนะนำในการช่วยลดการใช้พลังงานมาฝากกัน ด้วยการเปลี่ยนการใช้หลอดไฟแบบเก่ามาเป็นหลอดไฟแอลอีดี (LED) กันเถอะ
หลอดไฟ LED (Light-emitting diode) เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้ากึ่งตัวนำหรือจะเรียกง่าย ๆ ว่าไดโอดเปล่งแสงโดยการพัฒนาจากอุปกรณ์เล็ก ๆ และเมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าไปที่ขั้วหลอดไฟ LED ก็จะสว่างขึ้นทันที ซึ่งจะต่างกับหลอดไฟแสงจันทร์ หลอดฟลูออเรสเซนต์ ที่ใช้ตามบ้านเรือนทั่วไป
บอกข้อดีของหลอดไฟ LED กันเลย
หลอดไฟ LED เปิดปุ๊บสว่างปั๊บ ไม่ต้องรอเวลาหลังจากเปิดเหมือนกับหลอดฟลูออเรสเซนต์และหลอดแสงจันทร์ จึงช่วยประหยัดค่าไฟได้ เราสามารถใช้หลอดไฟ LED แทนหลอดประหยัดไฟแบบหลอดตะเกียบได้เลย เพราะถูกออกแบบขั้วหลอดให้ใช้ทดแทนกันได้ (แต่รอให้หลอดตะเกียบหมดอายุก่อนก็ได้นะ แล้วค่อยเปลี่ยน) หลอดไฟ LED สามารถควบคุมการกระจายแสงได้ เพราะถูกออกแบบมาเพื่อให้ควบคุมทิศทางการกระจายแสงได้ตามต้องการ จึงทำให้มีประสิทธิภาพสูง หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดแบบเก่า โดยมีอายุการใช้งานได้ถึง 60,000 ชั่วโมง โดยความสว่างของหลอดไม่ลดลง และที่สำคัญ หลอดไฟ LED ไม่มีการแพร่กระจายของรังสี UV แต่อย่างใด
ซึ่งปลอดภัยกว่าหลอดไฟรุ่นเก่าแถมยังไม่มีส่วนผสมของสารปรอทหรือสารพิษ จึงปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วยหลอดไฟ LED สามารถลดภาวะโลกร้อนได้ เพราะช่วยลดพลังงาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไปโดยไม่จำเป็นได้อย่างแท้จริง เราควรหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาโลกร้อน ปัญหาพลังงาน ปัญหาสิ่งแวดล้อม ด้วยการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เพิ่มขึ้นเพื่อชีวิตที่ดี
แหล่งอ้างอิง
http://www.changsinled.com/article
http://www.klcbright.com/articles.php