ก้อนเมฆ และการพยากรณ์อากาศ

ก้อนเมฆ และการพยากรณ์อากาศ

18-12-2021
ก้อนเมฆ และการพยากรณ์อากาศ

เมื่อเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้าในแต่ละวัน เราเคยสังเกตุรูปร่างลักษณะของก้อนเมฆเหล่านั้นหรือไม่ จากการสังเกตุ พบว่า เมฆที่ลอยตัวอยู่บนท้องฟ้ามีรูปร่างลักษณะหลากหลายรูปแบบ  เช่น บางวัน เราพบว่า เมฆจะมีลักษณะคล้ายปุยสำลีสีขาวนุ่มที่แผ่เป็นแผ่นบางๆ ลอยบนท้องฟ้า หรือบางครั้ง เราพบว่า เมฆลอยตัวรวมกันเป็นกลุ่มก้อนสีขาวหลายๆก้อน คล้ายกลุ่มฝูงแกะที่กำลังวิ่งอยู่บนท้องฟ้า หรือบางครั้ง พบว่า ก้อนเมฆรวมตัวกันจนกลายเป็นก้อนเมฆขนาดมหึมา สีดำทมิฬ ลอยอยู่บนท้องฟ้า

คุณรู้หรือไม่ว่า ความแตกต่างของรูปร่างลักษณะของก้อนเมฆที่แตกต่างกันเหล่านี้ สามารถช่วยในการพยากรณ์อากาศการเกิดพายุฝนเบื้องต้นได้ เรามาทำความรู้จักและเรียนรู้ในการพยากรณ์อากาศจากรูปร่างลักษณะของก้อนเมฆเหล่านี้กัน

เมฆ คือ กลุ่มของละอองน้ำขนาดเล็กที่เกิดจากการระเหยของน้ำบนพื้นโลกเมื่อได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์จนกลายเป็นไอน้ำหรือละอองน้ำขนาดเล็กลอยตัวขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศแล้วเกิดการควบแน่น  จากนั้นผลึกน้ำแข็งที่เกิดจากควบแน่นจึงรวมตัวกันและลอยเป็นกลุ่มก้อนอยู่บนท้องฟ้า

นักอุตุนิยมวิทยาได้จำแนกเมฆออกเป็น 3 ระดับ โดยจำแนกตามความสูงของก้อนเมฆที่ลอยอยู่เหนือพื้นดิน นั่นคือ ระยะทางที่วัดจากพื้นดินไปยังฐานของก้อนเมฆ ได้แก่ เมฆชั้นสูง เมฆชั้นกลาง เมฆชั้นต่ำ

เมฆชั้นสูงมักจะลอยตัวอยู่ที่ระดับความสูงตั้งแต่ 6 กิโลเมตรขึ้นไป และจะมีลักษณะเป็นริ้วบางๆ คล้ายขนนกหรือปลายหางของม้า มักจะเกิดขึ้นในเวลาที่อากาศดี ต่อมาคือเมฆชั้นกลาง เมฆเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นที่ระดับความสูง 2-6 กิโลเมตร และมีลักษณะคล้ายก้อนสำลีปุกปุยหลายก้อนลอยรวมกันอยู่คล้ายฝูงแกะกำลังวิ่งบนท้องฟ้า มักจะปรากฏในช่วงอากาศดี ท้องฟ้าสดใส แต่เมื่อเมฆเหล่านี้รวมตัวกันจนหนาแน่นมากๆ จนเป็นก้อนเดียวกันและลอยตัวตัวต่ำลง อาจจะเกิดฝนได้ สำหรับเมฆชั้นต่ำนั้น มักจะเกิดขึ้นที่ระดับความสูงต่ำกว่า 2 กิโลเมตร เมฆชั้นนี้เราจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเนื่องจาก เมฆชั้นนี้มักจะก่อตัวในตั้งมีลักษณะคล้ายดอกกะหล่ำหรือฆ้อนขนาดใหญ่มหึมา และมีสีเทาเข้มไปจนถึงสีดำทมิฬ ยิ่งมีขนาดใหญ่มากๆ อาจเกิดการแปรปรวนของสภาพอากาศที่รุนแรงและพายุฝนฟ้าคะนอง

แล้วสีของก้อนเมฆแต่ละรูปแบบมีความแตกต่างกันหรือไม่ จากการสังเกตุพบว่า ก้อนเมฆที่ปรากฏบนท้องฟ้าแต่ละรูปแบบจะมีสีที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเพราะ ผิวของหยดน้ำและผลึกน้ำแข็งของเมฆแต่ละรูปร่างที่ลอยตัวอยู่ในชั้นบรรยากาศสามารถสะท้อนแสงได้แตกต่างกัน ถ้าหยดน้ำและผลึกน้ำแข็งมีความหนาแน่นน้อยจนแสงสามารถส่องผ่านได้ จะทำให้เรามองเห็นก้อนเมฆเป็นสีขาวและมีลักษณะเบาบางเหมือนปุยนุ่น เช่น เมฆรูปร่างคล้ายรูปขนนก และฝูงแกะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าอย่างเบาบาง แต่ถ้าเรามองเห็นก้อนเมฆเป็นสีเทาหรือสีดำนั้นแสดงว่าหยดน้ำและผลึกน้ำแข็งรวมตัวกันจนมีความหนาแน่นสูงมากและทำให้แสงไม่สามารถส่องผ่านได้ ส่วนใหญ่มักจะเป็นก้อนเมฆขนาดใหญ่มหึมาและลอยตัวต่ำ เช่น เมฆลักษณะคล้ายดอกกะหล่ำหรือฆ้อนนั่นเอง

เห็นหรือไม่ว่าก้อนเมฆสามารถบอกอะไรเราได้ การสังเกตุรูปร่างลักษณะก้อนเมฆจึงเป็นวิธีที่บรรพบุรุษของมนุษย์ใช้ในการพยากรณ์การเกิดพายุฝนในยุคโบราณ เพื่อประเมินสภาวะอากาศล่วงหน้าและเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น และเราเองก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน เรามาลองสังเกตก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้ากัน วันนี้เราจะต้องตากฝนกันหรือไม่

ผู้เขียน : สุมัยญา ยะก๊บ

อ้างอิง

ข่าวสารที่่คล้ายกัน