(ภาพโดย Li Lin บน Unsplash)
มิถุนายน พ.ศ. 2564 องค์การอนามัยแพนอเมริกัน (PAHO) รายงานจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด 19 กลุ่มวัยรุ่น และวัยกลางคนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในทวีปอเมริกา พบว่าเสียชีวิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายประเทศไม่สามารถจัดหาวัคซีนได้เพียงพอ และในหลายประเทศที่มีวัคซีนเพียงพอกลับพบปัญหาประชาชนที่อายุต่ำกว่า 35 ปี ขาดความเชื่อมั่นและไม่ยอมรับวัคซีน จึงได้แนะนำให้มีมาตรการป้องกันการติดเชื้อที่มุ่งเน้นกลุ่มประชากรกลุ่มนี้
แม้ผู้ป่วยกลุ่มวัยรุ่น และวัยกลางคนที่อายุน้อย รวมถึงนักกีฬาที่มีร่างกายแข็งแรงจะมีอาการป่วยไม่รุนแรง และมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าผู้สูงอายุ แต่อาจได้รับผลกระทบระยะยาวเรื้อรังหลังการติดเชื้อ (Long Covid) โดยเว็บไซต์ของสมาคมสรีรวิทยา (The Physiological Society) ได้เผยแพร่ข้อมูลซึ่งอ้างอิงงานวิจัยเมื่อต้นปี พ.ศ. 2564 ที่ระบุว่า ผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หลอดเลือด หัวใจ และสมอง เช่น หายใจติดขัด สูญเสียการรับรสและกลิ่น น้ำหนักตัวลด รวมทั้งสมองอ่อนล้า เนื่องจากภาวะหลอดเลือดแข็งตัวในช่วง 3-4 สัปดาห์หลังการติดเชื้อ โดยยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เพราะผู้ป่วยบางคนอาจมีประวัติการรักษาเกี่ยวกับหลอดเลือดมาก่อน
เป็นที่ทราบกันดีว่าภูมิคุ้มกันมีหน้าที่ทำลายสิ่งแปลกปลอม และเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งในคนที่อายุน้อยภูมิคุ้มกันจะตอบสนองได้ไว ทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว แต่บางครั้งการตอบสนองที่รุนแรงเกินไปของภูมิคุ้มกันทำให้เกิดภาวะพายุไซโตไคน์ (Cytokine Storm) อันเกิดจากร่างกายสร้างโปรตีนภูมิคุ้มกันมากเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบรุนแรง เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ เป็นต้น และสำหรับเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนอาจทำให้เกิดภาวะอักเสบหลายระบบในเด็ก (Multisystem Inflammatory Syndrome in Children หรือ MIS-C) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 นอกเหนือจากปัจจัยที่เกี่ยวกับโรคอ้วน โรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และความดันในผู้ป่วยอายุน้อย
มีการศึกษาผลข้างเคียงทางสรีรวิทยาซึ่งอาจส่งผลต่อสภาวะทางจิตในระยะยาวของผู้ป่วยโรคโควิด 19 ในประเทศอังกฤษ ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 พบว่าประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยที่รักษาโรคโควิด 19 หายแล้วจำนวน 2 แสนคน มีอาการทางจิตเวช เช่น โรควิตกกังวล โรคซีมเศร้า และความผิดปกติทางอารมณ์ จากมาตราการล็อกดาวน์ หยุดเรียน ยกเลิกกิจรรม และการเว้นระยะห่างที่บั่นทอนจิตใจอยู่แล้ว และอาจรุนแรงขึ้นเมื่อต้องผ่านประสบการณ์การติดเชื้ออีก โดยเฉพาะในวัยรุ่นที่อารมณ์ไม่มั่นคง
การศึกษาข้างต้นได้พิสูจน์ให้เห็นว่า คนทุกช่วงวัยควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ที่สามารถป้องกันการติดเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความรุนแรงของอาการ ผลกระทบระยะยาว และการเสียชีวิตจากการติดเชื้อได้ ขณะเดียวกันผู้ที่รับวัคซีนแล้วก็ควรใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง เพื่อลดการแพร่ระบาด และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ทันก่อนการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์อื่น ๆ จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประชากรอายุน้อยซึ่งเป็นอนาคตของประเทศที่อาจได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจ เช่น การว่างงาน หรือยกเลิกกิจการ รวมถึงการวางแผนชีวิต ซึ่งอาจนำมาสู่ปัญหาสังคมในอนาคต ดังนั้นการรับวัคซีน และใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทจะเป็นหนทางความอยู่รอดที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้
เรียบเรียงโดย: นุชจริม เย็นทรวง กองวิชาการวิทยาศาสตร์ สำนักวิชาการพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ อพวช
แหล่งที่มาข้อมูล:
Healthy young adults who had COVID-19 may have long-term impact on blood vessels and heart health [ออนไลน์]. 2564, แหล่งที่มา https://www.sciencedaily.com/releases/2021/05/210506125817.htm
10 reasons why young, healthy people need to get vaccinated against Covid-19 [ออนไลน์]. 2564, แหล่งที่มา https://edition.cnn.com/2021/05/05/health/young-people-covid-vaccine/index.html
Young Adults Infected With Covid Risk Repeat Bouts, Study Says [ออนไลน์]. 2564, แหล่งที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-04-15/young-adults-infected-with-covid-risk-repeat-bouts-study-says
Largest study to date suggests link between COVID-19 infection and subsequent mental health and neurological conditions [ออนไลน์]. 2564, แหล่งที่มา https://www.psych.ox.ac.uk/news/largest-study-to-date-suggests-link-between-covid-19-infection-and-subsequent-mental-health-and-neurological-conditions
Will Covid-19 create a 'lost generation' in Asia? [ออนไลน์]. 2563, แหล่งที่มา https://www.straitstimes.com/asia/will-covid-19-create-a-lost-generation-in-asia