ผู้เขียน วารี อัศวเกียรติรักษา
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมว่า ประเทศไทย โดยเฉพาะแถบภาคเหนือนั้น เผชิญกับมลภาวะทางอากาศ รวมถึงฝุ่น PM 2.5 มากว่า 20 ปีแล้ว
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ได้เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจสภาพอากาศของประเทศไทยย้อนหลัง ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2541-2559 พบว่า ประเทศไทยโดยเฉพาะแถบภาคเหนือ บริเวณ จังหวัด น่าน พะเยา เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน เผชิญกับมลภาวะทางอากาศและฝุ่นขนาดเล็ก เช่น PM 2.5 เกินมาตรฐานมาตลอดช่วงเวลาดังกล่าวกว่า 20 ปีแล้ว
ซึ่งข้อมูลนี้เป็นข้อมูลสถิติจากดาวเทียมสำรวจสภาพอากาศที่สามารถรายงานปริมาณฝุ่นละอองในชั้นบรรยากาศได้ในพื้นที่กว้างระดับภูมิภาค โดย GISTDA เผยว่า การใช้เทคโนโลยีดาวเทียมจะช่วยลดข้อจำกัดของอุปกรณ์ตรวจวัดภาคพื้นดินที่มีขอบเขตน้อยกว่า ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ในการคาดการณ์ปริมาณฝุ่นละออง ได้เร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความรวดเร็วในการแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้
ปัจจุบัน ปัญหา PM 2.5 กลายเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนต้องเข้ามาร่วมมือกันเพื่อบรรเทาปัญหา เช่น ภาครัฐออกโครงการรถเก่าแลกใหม่ เพื่อลดปัญหาฝุ่นมลพิษจากรถยนต์สภาพเก่าและสนับสนุนรถยนต์ที่ช่วยลดมลพิษ การออกมาตรการควบคุมการเผาขยะในพื้นที่สาธารณะ การศึกษาทดลองใช้นวัตกรรม Airpurifyer Tower เพื่อดักจับฝุ่นจากอากาศ การรณรงค์ลดการเผาพื้นที่ทางการเกษตรหลังการเก็บเกี่ยว และอีกหลายแนวทางที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อลดอีกหนึ่งปัญหาที่อยู่กับคนไทยมายาวนานกว่า 20 ปี
ที่มาของรูปภาพ
https://www.gistda.or.th/main/sites/default/files/content_file/mean.jpg
แหล่งที่มาของข้อมูล
https://www.gistda.or.th/main/th/node/4265
แหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม